ฟุตโน้ต:29:24

แปลปฐมพุทธอุทาน

เมื่อเรายังค้นคว้าหานายช่างผู้ปรุงแต่งเรือนไม่พบ

เราจึงต้องเวียนว่ายเกิดตายบ่อยๆ นับชาติไม่ถ้วน,

เพราะการที่เราต้องเกิดบ่อยๆ ล้วนแต่เป็นทุกข์,

ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราจึงค้นคว้าหาท่านอยู่.

แน่ะนายช่างผู้ปรุงแต่งเรือน เราได้ค้นพบท่านแล้ว,

ท่านจะปรุงแต่งเรือนอีกไม่ได้,

ซี่โครงทุกซี่ของท่านเราหักเสียแล้ว,

จิตของเราไม่ปรุงแต่งยอดเรือนอีกต่อไปแล้ว,

จิตของเราเข้าถึงสภาวะไม่ปรุงแต่งแล้ว,

เพราะเราบรรลุธรรมที่หมดสิ้นตัณหาแล้ว.

(แน่ะนายช่างผู้ปรุงแต่งเรือน เราได้ค้นพบท่านแล้ว

เพราะเราค้นคว้าเห็นยอดเรือนคือความไม่รู้ว่า

1. การที่เราต้องเกิดบ่อยๆ ล้วนแต่เป็นทุกข์,

2. การที่เรามีตัณหาปรุงแต่งเรือนบ่อยๆ เป็นเหตุแห่งทุกข์,

3. ถ้าจิตของเราเข้าถึงสภาวะไม่ปรุงแต่งเรือนใหม่แล้ว

ทุกข์ก็ไม่ถูกปรุงแต่งให้เกิดขึ้นใหม่เช่นกัน,

4. เมื่อเราค้นพบอวิชชาจนเห็นอริยสัจ 4 นี้แล้ว

เราจึงปฏิบัติการหักรานตัณหาไม่ให้ท่านปรุงแต่งได้อีก

เรือนใหม่ของเราจึงไม่เกิดอีก)

แปลคู่กับ มหาวคฺค,ปาฬิ 77 ปณฺเณ https://sutta.men/?th.r.7.77…สนฺธาวิ#hl

https://wiki.5000y.men/ฟุตโน้ต:29:24

แต่มีบางท่านอ่านอรรถกถาธรรมบท หรือ พจนานุกรม PTS

แล้วเข้าใจว่า แปล อนิพฺพิสํ ว่า "เราไม่ได้ญาณ, เรายังไม่พบญาณ"

อธิบายว่า ในบาลีแปลว่า "เมื่อเรายังไม่(ได้ญาณ)ค้นพบ นายช่างผู้ปรุงแต่งเรือน,

อรรถกถาจึงเอาจิตที่แทงตลอดมาขยายว่า ที่ในบาลีแปลว่า "ไม่ค้นพบ" คือ ยังไม่ได้ญาณช่วยให้ค้นพบ (ค้นพบนายช่างผู้ปรุงแต่งเรือน),

ฉะนั้นถ้าแปลบาลี อนิพฺพิสํ ว่า "เราไม่ได้ญาณ, เรายังไม่พบญาณ" จะทำให้นักเรียนบาลีสับสนเพราะ

  • ถ้าจะคิดง่ายๆ เลย คือ เยน ญาเณน ในอรรถกถา ทำให้ ตํ ญาณํ ในอรรถกถา กลายเป็นการณะของ ทฏฺฐุํ ในอรรถกถา ซึ่งกำลังสื่อถึง ทิฏฺโฐสิ ในบาลี และคำว่า ทิฏฺโฐสิ นี้ ก็เป็นคำตรงกันข้ามของ อนิพฺพิสํ ที่แปลว่า เรายังค้นไม่พบ.
  • ในบาลี Subject กับ Verb คือ อนิพฺพิสํ แสดงไว้ในบทที่ 2, ส่วน Object คือ คหาการํ แสดงในบทที่ 3
  • ในอรรถกถา จึงอธิบายแค่ อนิพฺพิสํ ในบทที่ 2 โดยไม่ได้ยก Object มา
  • คนแปลบางท่านอ่านอรรถกถาที่ว่า อนิพฺพิสํ ตํ ญาณํ อวินฺทนฺโต อลพฺภนฺโต ก็เลยเข้าใจว่า อรรถกถาขยาย Object ว่า ตํ ญาณํ
  • แต่จริงๆ "ตํ ญาณํ" อรรถกถาไม่ได้ขยายว่าเป็น Object แต่กำลังเชื่อมประโยค "เยน ญาเณน" กับ "ตํ ญาณํ" ที่ท่านแสดงไว้ในการขยายความบทที่ 2 เช่นเดียวกันว่า "พระโพธิสัตว์จะหาตัณหาพบด้วยญาณใด…, เมื่อไม่แทงตลอด ไม่ได้ญาณนั้น"
  • ส่วน Object อรรถกถาดึงมาจากบทที่ 3 โดยให้ขึ้นเป็นส่วนแรกของการอธิบายสภาวะทั้งหมดนี้ [เพราะบาลีเป็นอุปมาอุปไมย] เพราะไปคู่กับ Subject หลักในบาลี คือ คเวสนฺโต, เมื่อจะอธิบายอุปมาให้ง่าย จึงยก Object กับ Subject ขึ้นมาอย่างนี้ แล้วค่อยเอา Complement มาขยายสภาวะให้เห็น.

- Subject กตฺตา, ประธานของประโยค

- Object กมฺม, กรรมของประโยค

- Complement ส่วนขยายอื่นๆ ที่เหลือในประโยค