[185] ดูกรภิกษุทั้งหลายเหตุขี้เกียจ (มนสิการคำสอนของพระพุทธเจ้า) มี 8 ข้อ. กุสีตวัตถุ 8 ข้ออย่างไร?
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อมีการงาน (มีการดูแลจีวรเป็นต้น) ที่ภิกษุในธรรมวินัยนี้จำเป็นต้องทำให้เสร็จ, เธอมีความคิดอย่างนี้ว่า "เดี๋ยวจักมีการงานที่เราต้องทำ. เมื่อเราทำงานอยู่ กายก็จักเหนื่อยล้า. ฉะนั้น ตอนนี้เราจะนอน (เก็บแรงไว้ก่อนทำงาน)." เธอนอนเสียไม่ปรารภความเพียร (มนสิการคำสอนของพระพุทธเจ้า) เพื่อถึงธรรมที่ยังไม่ถึง (คือ ฌาน วิปัสสนา มรรค ผล) เพื่อบรรลุธรรมที่ยังไม่บรรลุ เพื่อกระทำให้แจ้งธรรมที่ยังไม่ทำให้แจ้ง. นี้เป็นเหตุขี้เกียจ (มนสิการคำสอนของพระพุทธเจ้า) ข้อที่ 1 ฯ
อีกข้อคือ เมื่อการงานนั้นภิกษุได้ทำเสร็จแล้ว. เธอมีความคิดอย่างนี้ว่า "การงานเราก็ทำเสร็จแล้ว. เมื่อเราทำงานเสร็จแล้ว กายก็เหนื่อยล้าพอแล้ว. ฉะนั้น ตอนนี้เราจะนอน (พักผ่อนหลังทำงาน)." เธอนอนเสีย ไม่ปรารภความเพียรเพื่อถึงธรรมที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุธรรมที่ยังไม่บรรลุเพื่อกระทำให้แจ้งธรรมที่ยังไม่ทำให้แจ้ง. นี้เป็นเหตุขี้เกียจข้อที่ 2 ฯ
อีกข้อคือ เมื่อภิกษุต้องเดินทาง. เธอมีความคิดอย่างนี้ว่า "เราจักต้องเดินทาง. เมื่อเราเดินทางอยู่ กายก็จักต้องเหนื่อยล้า. ฉะนั้น ตอนนี้เราจะนอน (เก็บแรงไว้ก่อนเดินทาง)." เธอนอนเสียไม่ปรารภความเพียรเพื่อถึงทางที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุทางที่ยังไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งทางที่ยังไม่ทำให้แจ้ง. นี้เป็นเหตุขี้เกียจข้อที่ 3 ฯ
อีกข้อคือ เมื่อภิกษุเดินทางเสร็จแล้ว. เธอมีความคิดอย่างนี้ว่า "เราก็ได้เดินทางเสร็จแล้ว. เมื่อเราเดินทางเสร็จแล้ว กายก็เหนื่อยล้าพอแล้ว. ฉะนั้น เราจะนอน (พักผ่อนหลังเดินทาง)." เธอนอนเสียไม่ปรารภความเพียร เพื่อถึงทางที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุทางที่ยังไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งทางที่ยังไม่ทำให้แจ้ง. นี้เป็นเหตุขี้เกียจข้อที่ 4 ฯ
อีกข้อคือ เมื่อภิกษุเที่ยวบิณฑบาตตามบ้านหรือนิคม ไม่ได้โภชนะอันเศร้าหมองหรือประณีตเพียงพอตามต้องการ. เธอมีความคิดอย่างนี้ว่า "เราเที่ยวเดินบิณฑบาตตามบ้านหรือนิคม ไม่ได้โภชนะอันเศร้าหมองหรือประณีต พอแก่ความต้องการ กายของเราเหนื่อยล้าแล้ว ไม่ควรแก่การงาน. ฉะนั้น เราจะนอน." เธอนอนเสีย ไม่ปรารภความเพียร ฯลฯ. นี้เป็นเหตุขี้เกียจข้อที่ 5 ฯ
อีกข้อคือ เมื่อภิกษุเที่ยวบิณฑบาตตามบ้านหรือนิคม ได้โภชนะเศร้าหมองหรือประณีตเพียงพอตามต้องการ. เธอมีความคิดอย่างนี้ว่า "เราเที่ยวบิณฑบาตตามบ้านหรือนิคม ได้โภชนะเศร้าหมองหรือประณีต พอแก่ความต้องการแล้ว กายของเรานั้นหนัก (เพราะง่วงนอน) ไม่ควรแก่การงาน เหมือนถั่วชุ่มด้วยน้ำ. ฉะนั้น เราจะนอน." เธอนอนเสีย ไม่ปรารภความเพียร ฯลฯ. นี้เป็นเหตุขี้เกียจข้อที่ 6 ฯ
อีกข้อคือ อาพาธเล็กน้อยเกิดขึ้นแก่ภิกษุ. เธอมีความคิดอย่างนี้ว่า "อาพาธเล็กน้อยนี้เกิดแก่เราแล้ว สมควรจะนอน. ฉะนั้น เราจะนอน." เธอนอนเสีย ไม่ปรารภความเพียร ฯลฯ. นี้เป็นเหตุขี้เกียจข้อที่ 7 ฯ
อีกข้อคือ เมื่อภิกษุหายจากอาพาธแล้ว แต่เพิ่งหายไม่นาน. เธอมีความคิดอย่างนี้ว่า "เราหายจากอาพาธแล้ว แต่ยังหายไม่นาน. กายของเรายังอ่อนเพลีย ไม่ควรแก่การงาน. ฉะนั้น เราจะนอน." เธอนอนเสีย ไม่ปรารภความเพียร เพื่อถึงการงานที่ยังไม่ถึง เพื่อบรรลุการงานที่ยังไม่บรรลุ เพื่อทำให้แจ้งการงานที่ยังไม่ได้ทำให้แจ้ง. นี้เป็นเหตุขี้เกียจข้อที่ 8 ฯ