ฟุตโน้ต:28:2

ความแตกต่าง

นี่เป็นการแสดงความแตกต่างระหว่างเพจสองรุ่น

ลิงค์ไปยังการเปรียบเทียบนี้

การแก้ไขก่อนหน้าทั้งสองฝั่ง การแก้ไขก่อนหน้า
การแก้ไขถัดไป
การแก้ไขก่อนหน้า
ฟุตโน้ต:28:2 [2025/03/12 03:41] dhammaฟุตโน้ต:28:2 [2025/03/12 06:42] (ฉบับปัจจุบัน) – [พระอาจารย์ C:] dhamma
บรรทัด 12: บรรทัด 12:
 ** (อันเป็นพื้นฐานฝึกตน)  ** (อันเป็นพื้นฐานฝึกตน) 
 * สมาทิยามิ * สมาทิยามิ
-** (สมฺมาวาจา-สมฺมากมฺมนฺต-สมฺมาอาชีวอธิสีลสิกฺขาปทฏฺฐานวเสน ตํ อนาคตํ วา ปจฺจุปฺปนฺนํ วา สมฺปตฺตวิรติํ วิสยุตฺตสมาทานเจตนาวเสน สมฺมา อาทิยามิ). +** (สมฺมาวาจา-สมฺมากมฺมนฺต-สมฺมาอาชีวอธิสีลสิกฺขาปทฏฺฐานวเสน ตํ อนาคตํ วา ปจฺจุปฺปนฺนํ วา สมฺปตฺตวิรติํ [[sutta>วรมณ(th.r.107.365.1.4)]][[sutta>เจตนา(th.r.107.365.1.4)]][[sutta>ุสีลฺย(th.r.107.365.1.4)]][[sutta>สิกฺขาปทานีติ(th.r.107.365.1.4)|กสลสิกฺขา]][[sutta>อุปฺปนฺนํ(th.r.50.298.0.8)|จิตฺตุปฺปาทสฺส]] [[sutta>สมาทาน(th.r.82.13.0.14)]]วเสน สมฺมา [[sutta>อาทิยามิ(th.r.82.13.0.14)]]). 
  
 ส่วนที่บอกว่า วิรตี มีอารมณ์เป็นปัจจุบันเท่านั้น ท่านหมายเอาสมฺปตฺตวิรตี ใน อภิ.สิกฺขาปทวิภงฺคเท่านั้น ไม่รวมสมาทานวิรตี เพราะบาลีใน อภิ.วิ. ไม่มีคำว่า "สมาทิยามิ". จะเห็นว่า ไม่เหลือความสงสัยเลย. เพราะฉะนั้น การนั่งสมาธิ หรือการทำปาฬิที่ท่องจำไว้ให้เป็นวิมุตตายตนะ โดยการเรียนจากผู้ทรงจำพระไตรปิฎก ที่เคร่งครัดในพระกรรมฐาน มีความสำคัญมาก ที่จะทำให้เรียนได้ว่องไว. อนึ่ง จริงๆ ไม่แนะนำให้ใส่คำว่าเจตนาเข้ามา เพราะคำว่าเจตนาในอรรถกถา ไม่ได้มีความหมายเท่ากับ สมาทิยามิ. ส่วนที่บอกว่า วิรตี มีอารมณ์เป็นปัจจุบันเท่านั้น ท่านหมายเอาสมฺปตฺตวิรตี ใน อภิ.สิกฺขาปทวิภงฺคเท่านั้น ไม่รวมสมาทานวิรตี เพราะบาลีใน อภิ.วิ. ไม่มีคำว่า "สมาทิยามิ". จะเห็นว่า ไม่เหลือความสงสัยเลย. เพราะฉะนั้น การนั่งสมาธิ หรือการทำปาฬิที่ท่องจำไว้ให้เป็นวิมุตตายตนะ โดยการเรียนจากผู้ทรงจำพระไตรปิฎก ที่เคร่งครัดในพระกรรมฐาน มีความสำคัญมาก ที่จะทำให้เรียนได้ว่องไว. อนึ่ง จริงๆ ไม่แนะนำให้ใส่คำว่าเจตนาเข้ามา เพราะคำว่าเจตนาในอรรถกถา ไม่ได้มีความหมายเท่ากับ สมาทิยามิ.
  
- 
------------------ 
-==คำที่น่าจะเป็นต้นเรื่อง== 
- 
-อตฺถโต ปน เวรมณีติ กามาวจรกุสลจิตฺตสมฺปยุตฺตา วิรติ, สา ปาณาติปาตา วิรมนฺตสฺส ‘‘ยา ตสฺมิํ สมเย ปาณาติปาตา อารติ วิรติ ปฏิวิรติ เวรมณี อกิริยา อกรณํ อนชฺฌาปตฺติ เวลาอนติกฺกโม เสตุฆาโต’’ติ เอวมาทินา (วิภ. 704) นเยน วิภงฺเค วุตฺตาฯ กามญฺเจสา เวรมณี นาม โลกุตฺตราปิ อตฺถิ, อิธ ปน [[sutta>สมาทิยามีติ วุตฺตตฺตา สมาทานวเสน ปวตฺตารหา(th.r.82.13.0.14.0)]], ตสฺมา สา น โหตีติ กามาวจรกุสลจิตฺตสมฺปยุตฺตา วิรตีติ วุตฺตาฯ 
 ----------------- -----------------
 ==พระอาจารย์ C:==  ==พระอาจารย์ C:== 
บรรทัด 48: บรรทัด 43:
 ==พระอาจารย์ C:==  ==พระอาจารย์ C:== 
  
-[[sutta>สมฺปตฺตวิรต(th.r.85.211.0.15)]]+[[sutta>สมฺปตฺตวิรติ,อิติวุตฺตกวณฺณนายํ(th.r.85.211.0.15)]]
  
 ----------------- -----------------
  
 ==พระอาจารย์ C:==  ==พระอาจารย์ C:== 
-ฏี. [[sutta>สมาทานวิรติ(th.r.131.141.0.4)]]+(ฏี. [[sutta>สมาทานวิรติ(th.r.131.141.0.4)]]
 อ. [[sutta>สมาทานวิรตีติ(th.r.74.138.0.2)]] อ. [[sutta>สมาทานวิรตีติ(th.r.74.138.0.2)]]
  
บรรทัด 94: บรรทัด 89:
 ==พระอาจารย์ C:==  ==พระอาจารย์ C:== 
  
-@อุบาสก B  ยสฺมา ปน น เกวลํ วิรติเยว สิกฺขาปทํ, เจตนาปิ สิกฺขาปทเมว, ตสฺมา ตํ ทสฺเสตุํ ทุติยนโย ทสฺสิโต…ตตฺถ ทุวิธํ สิกฺขาปทํ ปริยายสิกฺขาปทํ นิปฺปริยายสิกฺขาปทญฺจ. ตตฺถ วิรติ นิปฺปริยายสิกฺขาปทํ. สา หิ "ปาณาติปาตา เวรมณี"ติ ปาฬิยํ อาคตา, โน เจตนา. วิรมนฺโต จ ตาย เอว ตโต ตโต วิรมติ, น เจตนาย. เจตนํ ปน อาหริตฺวา ทสฺเสสิ. ก็เพราะมิใช่แต่วิรัติเท่านั้นที่เป็นสิกขาบท แม้เจตนาก็เป็นสิกขาบทเช่นกัน ดังนั้น พระองค์หวังจะแสดงเจตนานั้น จึงแสดงนัยที่ ๒… ในสิกขาบทวิภังค์นั้น สิกขาบทมี ๒ อย่างคือ สิกขาบทโดยตรง และสิกขาบทโดยอ้อม บรรดา ๒ อย่างนั้น วิรัติ เป็นสิกขาบทโดยตรง ดังที่มาในพระบาลีว่า ปาณาติปาตา เวรมณี, ไม่ใช่เจตนา และบุคคลเมื่อจะงดเว้น ย่อมงดเว้นจากอารมณ์นั้นๆได้ ด้วยวิรัตินั้น หางดเว้นได้ด้วยเจตนาไม่ แต่กระนั้น พระองค์ก็ทรงนำเจตนามาแสดงแล้ว..+@อุบาสก B  [[sutta>ยสฺมา ปน น เกวลํ วิรติเยว สิกฺขาปทํ(th.r.107.365.1.4)]], เจตนาปิ สิกฺขาปทเมว, ตสฺมา ตํ ทสฺเสตุํ ทุติยนโย ทสฺสิโต…ตตฺถ ทุวิธํ สิกฺขาปทํ ปริยายสิกฺขาปทํ นิปฺปริยายสิกฺขาปทญฺจ. ตตฺถ วิรติ นิปฺปริยายสิกฺขาปทํ. สา หิ "ปาณาติปาตา เวรมณี"ติ ปาฬิยํ อาคตา, โน เจตนา. วิรมนฺโต จ ตาย เอว ตโต ตโต วิรมติ, น เจตนาย. เจตนํ ปน อาหริตฺวา ทสฺเสสิ. ก็เพราะมิใช่แต่วิรัติเท่านั้นที่เป็นสิกขาบท แม้เจตนาก็เป็นสิกขาบทเช่นกัน ดังนั้น พระองค์หวังจะแสดงเจตนานั้น จึงแสดงนัยที่ ๒… ในสิกขาบทวิภังค์นั้น สิกขาบทมี ๒ อย่างคือ สิกขาบทโดยตรง และสิกขาบทโดยอ้อม บรรดา ๒ อย่างนั้น วิรัติ เป็นสิกขาบทโดยตรง ดังที่มาในพระบาลีว่า ปาณาติปาตา เวรมณี, ไม่ใช่เจตนา และบุคคลเมื่อจะงดเว้น ย่อมงดเว้นจากอารมณ์นั้นๆได้ ด้วยวิรัตินั้น หางดเว้นได้ด้วยเจตนาไม่ แต่กระนั้น พระองค์ก็ทรงนำเจตนามาแสดงแล้ว..
  
 ----------------- -----------------