ผมพัฒนาจากสายปริยัติมาสู่สายปฏิบัติได้อย่างไร

ความแตกต่าง

นี่เป็นการแสดงความแตกต่างระหว่างเพจสองรุ่น

Link to this comparison view

Both sides previous revision Previous revision
Next revision
Previous revision
Next revision Both sides next revision
ผมพัฒนาจากสายปริยัติมาสู่สายปฏิบัติได้อย่างไร [2023/07/14 22:13]
dhamma
ผมพัฒนาจากสายปริยัติมาสู่สายปฏิบัติได้อย่างไร [2023/07/14 23:05]
dhamma [สีล]
บรรทัด 112: บรรทัด 112:
 =ภาวนา= =ภาวนา=
 ==สีล== ==สีล==
 +โอวาท[[sutta>​ปาติโมกฺขํ(th.r.7.42.0.1)]] > สามัญญผลสูตร (ซึ่งถูกตกเลขไว้ในวรรคแรกของโกสลสังยุต) ซึ่งอธิบายโดยพระอานนท์ด้วย ที.สี. [[https://​84000.org/​tipitaka/​read/​m_siri.php?​B=9&​siri=10|สุภสูตร]] > ซึ่งต้องแทงตลอดพรหมชาลสูตรก่อน จึงจะบริสุทธิ์ ไม่งั้นจะกลายเป็น ​ ที.ม. [[https://​84000.org/​tipitaka/​read/​m_siri.php?​B=10&​siri=2|มหานิทานสูตร]] > ซึ่งการละคลายทิฏฐิตามสองสูตรนั้น เริ่มด้วยญาณปัญจกนิทเทส ตามลำดับ ดูลิงก์อธิบายหัวข้อ [[#​ปรมัตถ์]] >  5 ญาณนี้ มาสิ้นสุดที่ [[sutta>​ธมฺมนานตฺตญาณ(th.r.45.82.0.2)]] ซึ่งก็คือ [[sutta>​เจตนากรณียสุตฺตํ(th.r.26.3.0.1)]] > ซึ่งสูตรย่อๆ ของทุกแห่งข้างต้นก็มีลำดับตาม ที.สี. [[https://​84000.org/​tipitaka/​read/​m_siri.php?​B=9&​siri=10|สุภสูตร]] ที่ขยายเป็นลำดับสมถะกรรมฐาน ตาม ม.อุ. [[https://​84000.org/​tipitaka/​read/​m_siri.php?​B=14&​siri=19|กายคตาสติสูตร]] และวิปัสสนากรรมฐาน ที.ม.มหาสติปัฏฐานสูตรว่า [[sutta>​สมุทยวยธมฺมานุปสฺสี(th.r.7.232)]] นั่นเอง.
 ===วิปปฏิสาร=== ===วิปปฏิสาร===
 +(ตัวอย่าง สนธิอนุสนธิของสูตรติดๆกัน ในสังยุตตนิกาย,​ สนธิอนุสนธิของการให้กรรมฐาน)
 +
 วจีทุจจริต คือ จิตตุปบาทที่ยึดมั่นผิดบ่อยๆ จากที่เกิดดับจริงๆ ที่ล่วงออกมาทางวาจา วจีทุจจริต คือ จิตตุปบาทที่ยึดมั่นผิดบ่อยๆ จากที่เกิดดับจริงๆ ที่ล่วงออกมาทางวาจา
-วิปปฏิสาร คือ วจีทุจจริตนั่นแหละที่เกิดสลับกับโทสธรรมและโมหะธรรม คือ อุทธัจจะกุกกุจจะ (สูตรที่ 2 ที่ขยายเป็นสูตรที่ 8 และสูตรอื่นๆ ในวรรค [การให้สูตรกรรมฐานอยู่ที่ว่า ผู้รับกรรมฐานกำลังมนสิการอะไรมาก และรับกรรมฐานอะไรมาก่อน])+ 
 +วิปปฏิสาร คือ วจีทุจจริตนั่นแหละที่เกิดสลับกับโทสธรรมและโมหะธรรม คือ อุทธัจจะกุกกุจจะ ​เดือดร้อนใจในวจีสุจจริตที่ไม่ได้ทำไว้ และวจีทุจจริตที่ทำไว้ ​(สูตรที่ 2 ที่ขยายเป็นสูตรที่ 8 และสูตรอื่นๆ ในวรรค [การให้สูตรกรรมฐานอยู่ที่ว่า ผู้รับกรรมฐานกำลังมนสิการอะไรมาก และรับกรรมฐานอะไรมาก่อน]) 
 [[sutta>​ตจสารํ,​วิปฺปฏิปชฺชนฺติ,​อติสารํ(th.r.12.73.5.1) [[sutta>​ตจสารํ,​วิปฺปฏิปชฺชนฺติ,​อติสารํ(th.r.12.73.5.1)
-]] โดยให้ท่องจำอย่างน้อยตั้งแต่สูตรที่ 1 ถึง 7 ของวรรค ​+]] โดยให้ท่องจำอย่างน้อยตั้งแต่สูตรที่ 1 ถึง 7 ของวรรคแรกของ ​
 [[https://​84000.org/​tipitaka/​read/?​index_mcu15#​SecA_1_2|โกสลสังยุต]] [[https://​84000.org/​tipitaka/​read/?​index_mcu15#​SecA_1_2|โกสลสังยุต]]
 +
 +ขนฺธวคฺค,​ปาฬิ 98 ปณฺเณ [[sutta>​วิปฺปฏิสาโร(th.r.14.98)]]
 +
 +ซึ่งจากสูตรทั้งหลายใน[[https://​84000.org/​tipitaka/​read/?​index_mcu15#​SecA_1_2|โกสลสังยุต]]นี้ จะเห็นว่า ไม่ว่าผู้แนะนำจะมีจิตอย่างไรก็ตาม,​ ผู้รับฟังก็ต้องรักษากุศลจิตในขณะฟังให้ได้ เพราะวิปปฏิสารไม่ได้เกิดจากผู้แนะนำ แต่เป็นธรรมในภายในที่ผู้ฟังปล่อยให้เกิดขึ้นในตนเอง. ไม่งั้น เกิดผู้แนะนำเป็นพระอริยะเจ้า แล้วผู้ฟังคุมจิตไม่ได้ เกิดวิปปฏิสารพ่นวาจาเถียงกลับ เพราะยึดมั่นถือมั่นตรงกันข้ามกับพระอริยเจ้า ผู้ฟังก็ได้อริยุปวาทะเป็นอานิสงส์ ขุดหลุมฝังตนเอง ดุจขุยไผ่ทำร้ายไผ่.
 +
 +
 +
 +
 ==สมถะ== ==สมถะ==
 ==วิปัสสนา== ==วิปัสสนา==